COVID-19 Updates: Click here
วันนี้ รักษ พาทุกท่านมาทำความรู้จัก Ai Chi การออกกำลังกายในน้ำที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะการต่อสู้ตะวันออกที่แฝงไปด้วยความผ่อนคลาย สุขุม และนุ่มนวล ซึ่งเกิดจากการผสมผสานกันระหว่างแนวคิด Tai Chi และ Qigong รวมถึงเทคนิคการเคลื่อนไหวของ Watsu ในการฝึกสมาธิและลมปราณ ซึ่งมีส่วนช่วยให้การนอนหลับมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดอาการเครียด และยังช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้น พร้อมสร้างสมดุลให้แก่ร่างกาย อีกทั้งการออกกำลังกายในน้ำยังช่วยลดแรงกระแทก ทำให้ผู้ฝึกได้รับการเคลื่อนไหวที่เหมาะสมกับข้อต่อ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บ การทรงตัว และผู้สูงอายุ
เปิดรับประสบการณ์การฝึกฝนและออกกำลังกายในน้ำท่ามกลางธรรมชาติที่ให้ความผ่อนคลายทั้งกายและใจ โดยผู้ชำนาญการด้านการออกกำลังกายและกายภาพบำบัดได้แล้ววันนี้ที่ RAKxa GAYA.
เชื่อว่าสงกรานต์ที่ผ่านมา หลายๆ ท่านได้ชาร์จพลังกันอย่างเต็มที่จากการทำกิจกรรมช่วงวันหยุดกับคนใกล้ชิดและครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการสังสรรค์ ขึ้นภูเขา ลงทะเล หรือโร้ดทริป ซึ่งแน่นอนว่า หลายท่านได้แบกพลังใจกลับบ้านมาเต็มเปี่ยม แต่อาจต้องกลับมารับมือพลังกายที่อ่อนล้าและสุขภาพผิวจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่มาพร้อมกิจกรรมในช่วงหน้าร้อนอย่าง แสงแดด ไอร้อน ทราย น้ำทะเล หรือแม้แต่ความชื้น ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดผิวอุดตัน ขาดน้ำ ไม่สดใส ผิวไหม้ รวมไปถึงริ้วรอยก่อนวัย
ที่ RAKxa Wellness เรามีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้าน Anti-ageing, Dermatology, Lasers & Aesthetics จาก VitalLife ในเครือโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เป็นผู้ให้คำปรึกษาและการวิเคราะห์ทั้งอย่างตรงจุดและในภาพรวม ที่ไม่เพียงจะช่วยให้ผิวพรรณของคุณกลับมาดูสวยเปล่งประกายกว่าที่เคย แต่ยังดูแลคุณจากภายในเพื่อช่วยชะลอวัยของคุณอย่างรอบด้าน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงผู้ชำนาญการด้านศาสตร์องค์รวมและสปาจาก RAKxa JAI ที่พร้อมมอบความผ่อนคลายและดูแลปรนนิบัติผิวพรรณของคุณให้รู้สึกดีขึ้นในทันทีอีกด้วย วันนี้ รักษ พาคุณมาทำความรู้จักกับ 5 ทรีตเมนต์จาก RAKxa Wellness ที่จะคืนความแข็งแรงและเปล่งประกายกว่าที่เคยจากกิจกรรมหน้าร้อนของคุณ ให้สวยครบในทุกศาสตร์
ปรนนิบัติผิวอย่างล้ำลึก ด้วยการผสานเทคโนโลยีเพื่อการผลัดเซลล์ผิวด้วยแรงดันน้ำ (Aqua Peeling) การยกกระชับผิวหน้าด้วยประจุ Ion (Ionto-Lifting) การกระชับผิวหน้าด้วยพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (MultiPolar RF) และคลื่นอัลตราซาวด์ (Ultrasound) ที่ช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจด ล้ำลึก พร้อมผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน เพิ่มความชุ่มชื่น และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดสาเหตุของการเกิดสิว พร้อมเผยผิวใหม่ที่แลดูกระชับ กระจ่างใส และเปล่งปลั่งอย่างสัมผัสได้
นวัตกรรมแห่งการดูแลผิวอย่างล้ำลึกด้วยการนำเทคนิค Photobiomodulation จากการใช้แสงเลเซอร์ 4 ชนิด ที่จะช่วยลดเลือนจุดด่างดำทั้งจากสาเหตุการเกิดสิว แผลเป็น หรือแม้กระทั้งจุดด่างดำจากแสงแดดโดยตรง (Sunspot) โดยแสงสีฟ้า (Blue Light) จะทำหน้าที่กระตุ้นเกราะป้องกันแบคทีเรีย อาการอักเสบ และสาเหตุการเกิดสิว แสงสีเหลืองอำพัน (Amber Light) ช่วยปลอบประโลมผิว เตรียมผิวให้พร้อมก่อนการบำรุงและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพหลังการทำทรีตเมนต์ แสงสีแดง (Red light) คืนความแข็งแรงและเพิ่มประสิทธิภาพให้ผิวมีความสามารถในการซ่อมสร้างส่วนที่เสื่อมสภาพได้ด้วยตัวเองตามธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการเกิดใหม่ของคอลลาเจน ที่จะเพิ่มความยืดหยุ่นและความอ่อนเยาว์ให้แก่ผิว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในเรื่องการลดเลือนแผลเป็นได้เป็นอย่างดี และแสงอินฟราเรด (Infrared Light) ที่จะตรงเข้าสู่เนื้อเยื่อชั้นลึกเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมกลไกการซ่อมแซมถึงระดับเซลล์
วิตามินบำบัดสูตรเฉพาะเพื่อความงาม ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใสและคืนความเยาว์วัยให้แก่ผิว ช่วยกระตุ้นความงามจากภายในสู่ภายนอก อีกทั้ง ยังมีส่วนช่วยในการกำจัดสารพิษออกจากอวัยวะภายในที่สำคัญอีกด้วย
ทรีตเมนต์ต่อต้านอนุมูลอิสระที่มอบความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกให้แก่ผิวหน้า คอ ไปจนถึงเนินอกส่วนบน ช่วยเติมน้ำให้ผิวกลับมากระชับ นุ่มนวล และเปล่งปลั่ง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ผิวขาดน้ำ ทำกิจกรรมออกแดดเป็นเวลานาน หรือต้องการเตรียมความแข็งแรงให้แก่ผิวก่อนออกกิจกรรมกลางแจ้งหรือออกทริปในประเทศเขตร้อน
เติมสารอาหารและวิตามินสำคัญที่หลากหลายให้แก่ผิว เพื่อเพิ่มความแข็งแรง อีกทั้งช่วยเข้าไปซ่อมแซ่มและปกป้องชั้นผิวจากเหล่าอนุมูลอิสระและมลภาวะ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผิวที่แลดูโทรม ไม่สดใส แห้งกร้าน ตึงเครียดและล้าจากมลภาวะสะสม ให้กลับมานุ่มเด้ง อิ่มน้ำ และดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ความไม่สบาย ไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่กายหรือใจ ล้วนเป็นเรื่องที่เราทุกคนพบเจอกันได้เป็นปกติ แต่หากกลุ่มอาการเหล่านั้นเกิดขึ้นกับเราอยู่เป็นประจำจนสังเกตุได้และไม่มีท่าทีว่าจะหายหรือดีขึ้นเสียที ต้นตอของอาการเหล่านี้อาจเป็นผลมาจาก ความไม่สมดุลของธาตุเจ้าเรือนของคุณ
ตามทฤษฎีแพทย์แผนไทยเชื่อว่า ร่างกายประกอบด้วยธาตุทั้ง 4 อันได้แก่ ดิน น้ำ ลม และไฟ โดยแต่ละคนจะมีธาตุเจ้าเรือนที่แตกต่างกันไปตามวัน เดือน ปีเกิด ซึ่งเป็นพื้นฐานที่แพทย์แผนไทยประจำ รักษ ใช้ในการวิเคราะห์และวางแผนการดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐานของแขกแต่ละท่าน ด้วยการพูดคุยให้คำปรึกษาตามเอกลักษณ์ธาตุเจ้าเรือนของแต่ละท่าน จากนั้นจึงออกแบบและส่งมอบทรีตเมนต์การดูแลให้ตรงกลุ่มอาการตามสภาวะธาตุทีไม่สมดุล ให้กลับสู่ธาตุเจ้าเรือนเดิม
แม้จะได้ชื่อว่าเป็นที่ตั้งแห่งกองธาตุ จึงทำให้แข็งแรงสมบูรณ์กว่าคนธาตุอื่น แต่มักประสบกับอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อและข้อกระดูก มีอาการตึงที่สามารถพบได้ตั้งแต่ศีรษะ คอ บ่า ไหล่ หลัง สะบั้นเอว ไปจนถึงปลายเท้า คนกลุ่มนี้จึงเหมาะกับทรีตเมนต์ดูแลสุขภาพอย่าง Marma Healing Massage, Cupping (ครอบแก้ว) และ Floatation Therapy
คนธาตุน้ำมักมีปัญหาหรืออาการเกี่ยวกับเรื่องเลือดลมที่ไหลเวียนติดขัดไม่ค่อยดี น้ำเหลืองเสีย และมีอาการภูมิแพ้เรื้อรัง คนกลุ่มนี้จึงเหมาะกับทรีตเมนต์ดูแลสุขภาพอย่าง Hyperbaric Chamber Therapy, Singing
คนธาตุลมโดยตัวตนแล้วเป็นคนที่มีความคิดโลดแล่นอยู่ในหัวเยอะ จึงทำให้หลายๆ ครั้งคิดมากจนเกิดความความเครียด และมักมีปัญหาในเรื่องท้องอืด ท้องเฟ้อ จากลมที่คั่งอยู่ในช่องท้อง คนกลุ่มนี้จึงเหมาะกับทรีตเมนต์ดูแลสุขภาพอย่าง Colon Hydrotherapy, Traditional Thai Ya-Pao Detoxification Therapy และ Chi Nei Tsang
คนธาตุไฟเมื่อไฟขาดความสมดุลมักพบอาการร้อนรุ่มในร่างกาย ฮอร์โมนและอารมณ์เกิดความเปลี่ยนแปลง อีกทั้งผิวหนังที่มักจะเกิดสิว ดังนั้นเมื่อไฟถูกอัดแน่นไว้ในกายนานๆ มักนำมาสู่อาการปวดศีรษะ หน้าจะแดง ศรีษะจะสัมผัสได้ว่าร้อนขึ้น คนกลุ่มนี้จึงเหมาะกับทรีตเมนต์ดูแลสุขภาพอย่าง Cryo Sauna, Angle Stone Healing และ Mien Acupressure เพื่อให้ธาตุไฟกลับเข้าสู่สมดุล
ปรับสมดุลธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ในร่างกายและผ่อนคลายไปกับการดูแลสุขภาพตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ที่คุณจะได้ค้นพบต้นตอปัญหาสุขภาพ พร้อมอิ่มอร่อยกับอาหารเสริมภูมิต้านทานตำรับไทยแท้ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ 360 องศาของบางกระเจ้าที่ รักษ
คุณอาจไม่รู้ตัวว่า อากาศที่คุณหายใจ น้ำที่ดื่ม อาหารที่รับประทานเป็นประจำ อาจปนเปื้อนไปด้วยสารพิษโลหะหนัก ที่เป็นผลมาจากสภาวะโลกร้อนและวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมากต่อร่างกายในระยะยาว
ในวันอนามัยโลกปี 2022 นี้ WHO หรือองค์การอนามัยโลกเน้นถึงการสร้างความตระหนักรู้ถึงภัยเงียบของวิกฤตการณ์ด้านมลพิษที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและภาวะการระบาดของโควิด 19 ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดในเวลานี้
รักษ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความตระหนักรู้ และสร้างความเข้าใจในการดูแลสุขภาพเพื่อลดภาวะเสี่ยงของโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากสารพิษที่สะสมในร่างกาย หรือการเตรียมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้พร้อมอยู่เสมอ ด้วยการวิเคราะห์ที่ตรงจุด ผสานกับการดูแลสุขภาพด้วยศาสตร์องค์รวม เช่นการบำบัดด้วย IV Therapy หรือการให้วิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายผ่านทางกระแสเลือดโดยตรง ด้วยสูตร Chelation IV Formula ที่จะช่วยส่งเสริมการกำจัดสารพิษโลหะหนัก ตะกั่ว สารหนู อลูมิเนียม แคดเมียม ที่สะสมอยู่ในร่างกายโดยที่เราไม่รู้ตัว หรือ Immune Fight IV Infusion with Weber Laser Therapy ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิต้านทานด้วยวิตามินสูตรเฉพาะบุคคล ร่วมกับการบำบัดด้วยแสงเลเซอร์สีต่างๆ ที่คุณหมอผู้ชำนาญการจะเป็นผู้เลือกใช้ให้เหมาะกับสภาวะสุขภาพของแต่ละท่านอย่างแท้จริง
ความเครียดและความกังวลที่สะสมจนทำให้นอนไม่หลับ งานและภาระหน้าที่รอบตัวอันมากล้นที่ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอล้วนเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคร้ายแรงนานาชนิด ตั้งแต่โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง รวมทั้งโรคซึมเศร้า อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้การนอนหลับของคุณไร้คุณภาพและรู้สึกว่าการพักผ่อนตลอดคืนนั้นยังไม่เพียงพอคือ ‘ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น’ ซึ่งเป็นภาวะที่ทางเดินหายใจตีบแคบลงขณะหลับ ทำให้เกิดการปิดกั้นทางเดินหายใจ จนไม่สามารถหายใจผ่านไปยังหลอดลมและปอดได้อย่างสะดวก ส่งผลให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ และนอนได้อย่างไม่ต่อเนื่อง คุณจึงสูญเสียคุณภาพการนอนหลับตลอดคืน และตื่นมาเพื่ออย่างไม่สดชื่น ง่วงเพลีย และไม่พึงพอใจไปอีกวัน
การนอนกรนมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น หรือที่เราเคยได้ยินกันในชื่อ ‘Obstructive Sleep Apnea’ ภาวะผิดปกติของการหายใจที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ในทุกคนแต่พบได้บ่อยในผู้ชาย ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ผู้ที่สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ผู้สูงวัย และผู้หญิงที่กำลังเข้าวัยหมดประเดือน โดยจะมีอาการหยุดหายใจเป็นช่วงๆ ขณะหลับ ส่งผลให้คุณนอนหลับได้ไม่ลึกและไม่ต่อเนื่อง ซึ่งหากปล่อยไว้และไม่ได้รับการดูแลหรือรักษาอาจนำไปสู่การเกิดโรคทางสมองและหลอดเลือดหัวใจได้ อาทิ โรคหัวใจวาย ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ โรคหลอดเลือดสมองสมอง ตลอดจนฮอร์โมนเพศชายลดลง ส่งผลอย่างยิ่งต่อสมรรถภาพทางเพศ
ที่ RAKxa Wellness เรามีการตรวจคุณภาพการนอนหลับ ‘Sleep Test’ ซึ่งมีแพทย์ผู้ชำนาญการจาก VitalLife ในเครือโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เป็นผู้ให้คำปรึกษา ซึ่งเป็นการตรวจที่ใช้ในการประเมินภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น หรือ ‘Obstructive Sleep Apnea’ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจและทราบถึงที่มาของอาการนอนหลับไม่พอ หรือ ไม่มีคุณภาพ ซึ่งเกิดได้อย่างถูกต้องและตรงจุด
ค้นพบความสงบและนอนหลับได้ลึกกว่าที่เคยด้วย ‘Floatation Therapy’
หลายครั้งๆ ที่ความคิดในหัวเรามักวิ่งวุ่นจากสถานการณ์ที่ต้องเผชิญในทุกๆ วัน ก่อให้เกิดการความเครียดสะสม ไม่มีสมาธิในสูญเสียคุณภาพการนอนในตอนกลางคืน ซึ่งเป็นเวลาเดียวที่ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ การลอยตัวบำบัด หรือ Floatation Therapy เป็นทางเลือกแบบองค์รวมที่จะเข้ามาช่วยปรับสมดุลจิตใจ บรรเทาความเครียด และเพิ่มคุณภาพการนอนหลับให้กับคุณ เสมือนหยุดทุกสิ่งเอาไว้ชั่วขณะ และให้เวลากับตัวคุณได้ค่อยๆ สัมผัสความผ่อนคลายอย่าง ‘ล้ำลึก’
Floatation Therapy คือ การลอยตัวเหนือน้ำเกลือ Epsom ที่ความหนาแน่นเทียบเท่าทะเลเดดซี ทำให้ตัวคุณรู้สึกเหมือนว่ากำลังล่องลอยอยู่ในสภาวะไร้น้ำหนัก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุในเรื่องการช่วยพยุงน้ำหนักตัว
ที่ รักษ เราออกแบบ Floatation Room ให้มีความสงบและเป็นส่วนตัว โดยขจัดสิ่งเร้าภายนอกออกทั้งหมดทั้งรูปแบบที่สัมผัสได้ทางสายตา การได้ยิน ความตึงเครียด อุณหภูมิ และแรงโน้มถ่วง ผสานเข้ากับ Singing Bowls หรือคลื่นเสียงบำบัดจากขันทิเบต ความพิเศษเฉพาะที่ รักษ คิดค้นขึ้น ให้คุณผ่อนคลายได้อย่างล้ำลึกที่สุดเพื่อเข้าสู่สภาวะ ‘ธีต้า’ (Theta) ซึ่งเป็นสภาวะของคลื่นสมองที่นิ่งสงบ ได้รับการพักผ่อน และยากต่อการเข้าถึงได้ นำมาสู่การเกิดสมาธิขั้นสูงที่ทำให้คุณได้นำพาตัวเองกลับมาสู่ปัจจุบันอีกครั้ง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีความเครียดสะสมและมีปัญหาในเรื่องการนอนหลับ เพราะเมื่อคลื่นสมองเข้าสู่สมดุล ความเครียดที่คุณเก็บสะสมมาก็จะค่อยๆ ทุเลาลง พร้อมกับการนอนหลับที่สงบขึ้น สามารถหลับได้ลึกโดยที่ไม่ตื่นขึ้นมากลางดึก ทำให้การตื่นนอนในทุกเช้าของคุณสดชื่นขึ้นนั่นเอง
นอกจากนี้ประโยชน์หลักของการลอยตัวบำบัดยังมีที่มาจากแร่ธาตุแมกนีเซียมซัลเฟต ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเกลือ Epsom ช่วยปลอบประโลมผิว ผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วนทั้งร่างกาย และช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย
Business Traveller คือหนึ่งในอาชีพที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคทางระบบทางเดินหายใจ
นักท่องเที่ยวธุรกิจคือกลุ่มคนที่ต้องออกไปทำงาน อบรม พบปะ ประชุม รวมถึงต่อยอดธุรกิจในต่างแดนอยู่บ่อยครั้ง ทำให้มีหลายปัจจัยที่จะเพิ่มแนวโน้มความเสี่ยงในการเกิดหรือติดโรคทางระบบทางเดินหายใจและโรคระบาดประจำถิ่นกว่าคนในสาขาอาชีพอื่นๆ ทั้งแง่ของการเดินทาง การรับประทานอาหาร ที่พักอาศัย รวมไปถึงกิจกรรมระหว่างวัน
4 สาเหตุหลักๆ ที่ส่งผลต่อแนวโน้มความเสี่ยงในการเกิดโรคทางระบบทางเดินหายใจของนักท่องเที่ยวธุรกิจมีด้วยกันดังนี้
1. การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมในต่างแดนตั้งแต่ สภาพอากาศ ความชื้น อุณหภูมิ และสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งมีผลอย่างมากในกลุ่มที่มีโรคเรื้อรังทางทางเดินหายใจและปอด เช่น ภูมิแพ้ และ หอบหืด
2. โรคติดเชื้อไวรัสผ่านทางละอองฝอยจากระบบทางเดินหายใจ ไม่ว่าจะเป็นโรคประจำถิ่นหรือโรคที่แพร่ระบาดทั่วโลกในขั้นวิกฤต โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคโควิด 19 ในปัจจุบันที่ติดต่อกันได้ง่ายและกลายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว หรือในเขตพื้นที่ของบางประเทศที่มีการระบาดที่ชุกชุมของวัณโรค
3. ในบางพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งหลักของโรงงานอุตสาหกรรมอาจส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวเผชิญกับวิกฤตของฝุ่นและมลภาวะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฝุ่น PM 2.5 ที่ก่อให้เกิดโลหะหนักในร่างกายต่อผู้ที่ใช้เวลาด้านนอกอาคารเป็นเวลานาน ทำให้มีโอกาสในการสูดดมฝุ่นควันชนิดนี้เข้าไป อันประกอบไปด้วยสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่าง ตะกั่วและแคดเมียม ที่จะเข้าไปกระตุ้นการอักเสบของทางเดินหายใจและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง
4. การเดินทางบนเครื่องบินคืออีกสาเหตุหนึ่งที่เข้ามามีอิทธิพลต่อความเสี่ยง เนื่องด้วยระดับออกซิเจนในตัวเครื่องเมื่อบินอยู่บนที่สูงพร้อมความกดอากาศต่ำ จึงทำให้ระดับออกซิเจนลดน้อยลงกว่าปกติ ส่งผลไปกระตุ้นอาการของโรคทางเดินหายใจ อาการปวดหัว หรือไมเกรน
งนั้นกลุ่มของนักท่องเที่ยวธุรกิจหรือผู้ที่เดินทางบ่อยจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเตรียมร่างกายของตนให้พร้อมเดินทาง หรือ FIT-TO-TRAVEL โดยเริ่มด้วยการวางแผนและเตรียมข้อมูลของประเทศหรือพื้นที่ที่จะไป สอบถามเกี่ยวกับโรคประจำถิ่น หรือค้นหาข้อมูลที่หน้าเว็บไซต์ https://www.who.int/travel-advice ขององค์การอนามัยโลก เตรียมยาประจำตัวและยาแก้แพ้ที่จำเป็น เตรียมหน้ากากอนามัยให้พร้อมใช้ในที่สาธารณะและแออัดเสมอ ตรวจสุขภาพประจำปีอย่างต่อเนื่อง ตรวจประเมินความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด 19 ตามมาตราฐานของแต่ละพื้นที่ที่จะไปเยือน รวมไปถึงพักผ่อน ดื่มน้ำ และนอนหลับให้เพียงพอ และเสริมวิตามินที่ช่วยลดการอักเสบของร่างกายและช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันอย่าง Vitamin C, Zinc, Fish Oil หรือ N-acetylcysteine
ที่ รักษ เรามีแพทย์ผู้ชำนาญอย่างรอบด้านที่จะมาช่วยนักท่องเที่ยวธุรกิจในการเตรียมความพร้อมในทุกการเดินทางให้ราบรื่น หรือแม้แต่ผู้ที่เดินทางบ่อย ผู้ที่มีปัญหาในเรื่องระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง หรือแม้แต่ผู้ที่ต้องการเสริมภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจและโรคระบาดประจำถิ่น ไม่ว่าจะเป็นการดูแลด้วยศาสตร์แพทย์แผนปัจจุนที่ก้าวล้ำโดยการเพิ่มออกซิเจนให้แก่ร่างกายด้วย Ozone Therapy และ เครื่อง Hyperbaric Chamber การทำ Liver Detox จากการตรวจหาสารพิษโลหะหนักในร่างกายที่ส่งผลร้ายต่อปอดของคุณและทำการขับล้างสารพิษออกจากตับ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงศาสตร์แพทย์ทางเลือกในการฝึก Chest Expansion หรือการยืดหดตัวของซี่โครง การฝึกหายใจแบบ Pranayama ด้วยศาสตร์อายุรเวทพร้อมกับการทำ Singing Bowls การฝังเข็มด้วยศาสตร์แผนจีนเพื่อปรับสมดุลระบบทางเดินหายใจ การเผายาตามฉบับแพทย์แผนไทยที่จะช่วยปรับสมดุลธาตุในร่างกาย รวมไปถึงการออกกำลังกายอย่างโยคะที่จะช่วยในเรื่องความแข็งแรงของปอด
ดูแลสุขภาพทางเดินหายใจของคุณก่อนออกเดินทาง เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมได้แล้ววันนี้ที่ รักษ
หลายท่านอาจเคยได้ยินหรือได้รับการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพในเรื่องการมี “สุขภาพลำไส้ที่ดี” แต่การมีสุขภาพลำไส้ที่แข็งแรงแท้จริงแล้วมีความหมายว่าอย่างไรกันแน่? วันนี้ รักษ พาทุกท่านมาไขคำตอบกัน
จากการสัมภาษณ์กับ พญ. นิลรัตน์ นฤหล้า แพทย์ผู้ชำนาญการด้าน Anti-Ageing แห่ง VitalLife at RAKxa สุขภาพลำไส้ที่ดีนั้นโดยพื้นฐานแล้วคือการมีระบบการย่อยอาหารที่ดี มีพฤติกรรมและการเคลื่อนไหวของลำไส้ที่เป็นปกติ มีคุณภาพการนอนหลับพักผ่อนที่ดี ไม่มีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย หรือกรดไหลย้อน และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน แต่มักถูกมองข้ามอยู่บ่อยๆ คือ การมีอารมณ์ที่ดี
หลายคนไม่ทราบว่าลำไส้และสมองมีความเชื่อมโยงกัน นั่นจึงทำให้ลำไส้ถูกเรียกในอีกชื่อหนึ่งว่าสมองที่สอง โดย 80-90% ของเซโรโทนินหรือฮอร์โมนแห่งความสุขถูกผลิตขึ้นในลำไส้ ซึ่งเป็นผลมาจากการมีจุลินทรีย์ไมโครไบโอม (Microbiome) ในลำไส้ที่แข็งแรง การทำงานของลำไส้ที่ดีจึงส่งผลกระทบที่ดีในอีกขั้นไปยังสมองอีกด้วย
ไมโครไบโอมเป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในร่างกายของเรา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และโปรโตซัว อย่างไรก็ตาม ลำไส้ของเรามีแบคทีเรียทั้งที่ดีและไม่ดี ดังนั้นความสมดุลระหว่างแบคทีเรียทั้งสองชนิดนี้ จึงมีความสำคัญมากต่อการทำงานของลำไส้
ที่ รักษ เรามีทีมแพทย์จากไวทัลไลฟ์ Scientific Wellness Clinic ในเครือโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ที่จับมือกับ รักษ และผู้เชี่ยวชาญในการดูแลสุขภาพแบบศาสตร์องค์รวม โดยในแง่ของแนวทางทางการแพทย์ของไวทัลไลฟ์สำหรับผู้ที่มีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของลำไส้ เราจะมีทำการทดสอบการแพ้อาหารเพื่อระบุประเภทอาหารที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาการอักเสบในกระเพาะอาหารและลำไส้ของคุณ รวมถึงการทำ Basic Intestinal Profile เพื่อประเมินระดับจุลินทรีย์ในลำไส้ จากนั้นจะให้แนวทางการดูแลสุขภาพตามลำดับอย่างตรงจุดตามผลการทดสอบ โดยทรีตเมนต์ที่มีประสิทธิภาพตัวหนึ่งของ รักษ ในการช่วยเรื่องลำไส้คือ IV Drip หรือการให้วิตามินทางเส้นเลือดเพื่อเข้าไปดูแลสุขภาพของลำไส้ของคุณด้วยการให้วิตามินที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อลำไส้
ในด้านการดูแลแบบแพทย์ทางเลือกที่ RAKxa JAI เป็นอีกหนึ่งแนวทางการบำบัดที่เข้ามาช่วยให้อาการที่เด่นชัดทุเลาลงควบคู่ไปกับการแพทย์ที่ทันสมัยของไวทัลไลฟ์ ซึ่งในเรื่องของสุขภาพลำไส้ การแพทย์แบบองค์รวมจะเข้ามาช่วยวินิจฉัยว่าสุขภาพลำไส้ที่แปรปรวนของคุณเกิดจากการมีสภาวะความเครียดที่สูงไปหรือไม่ แล้วจึงเริ่มดูแลคุณในขั้นถัดไปด้วยการบำบัดความเครียด ดังนั้นการจับมือกันระหว่างการแพทย์ที่ทันสมัยเข้ากับการบำบัดด้วยธรรมชาติแบบองค์รวมจึงช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้ทั้งกายและใจ
เปิดประสบการณ์การดูแลสุขภาพแบบใหม่ ด้วยการผสมผสานศาสตร์ตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน เพื่อแนวทางในการดูแลสุขภาพของคุณอย่างถูกตรง ตรงจุด และยั่งยืนได้แล้ววันนี้ที่ รักษ กับ RAKxa’s Gut health treatment programme.
จำครั้งสุดท้ายที่คุณไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพจิตได้หรือไม่? คุณให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตเท่ากับกับสุขภาพกายของคุณไหม? ในตำราเวทอินเดียกล่าวว่า “จิตใจคือเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณและคือศัตรูที่เลวร้ายที่สุดของคุณเช่นกัน” และนี่คือเหตุผลว่าทำไมสมรรถภาพทางจิตของคุณจึงมีความสำคัญไม่แพ้สมรรถภาพทางกาย
สมรรถภาพทางจิตคือการที่จิตใจมีความแข็งแรง ซึ่งประกอบสร้างขึ้นด้วยความสุขและความพึงพอใจ ความสมดุลทางอารมณ์ และความเห็นอกเห็นใจ โดยสิ่งสำคัญข้อหนึ่งที่ส่งผลให้เรามีสมรรถภาพทางจิตที่ดีคือการที่เราหมั่นฝึกฝนการดูแลตนเองอย่างสม่ำเสมอและตระหนักรับรู้ถึงสภาวะปัจจุบัน
สิ่งแรกที่คนส่วนใหญ่มักนึกถึงเมื่อได้ยินคำว่าฟิตเนสหรือสมรรถภาพคือ การออกกำลังกาย การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน การบริโภคผักและกากใยให้มากขึ้น และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นมีความสำคัญในการผลักดันสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง อย่างไรก็ตามการมีสุขภาพจิตที่ดีก็มีความสำคัญในการก้าวเข้าสู่การมีวิถีชีวิตทั้งในเรื่องความสุขและการมีสุขภาพที่ดีในองค์กรรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ที่ทุกท่านต้องเผชิญกับวิกฤตโรคระบาดใหม่ สมรรถภาพทางจิตจึงมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสมรรถภาพทางกายในการต่อสู่กับความเครียดและความเปลี่ยนแปลง
สุขภาพกายและใจมีความเชื่อมโยงกันอย่างมีนัยยะสำคัญ สังเกตุได้จากผลกระทบต่อสิ่งหนึ่งเมื่อสิ่งหนึ่งเกิดความเปลี่ยนแปลง เช่น การออกกำลังกายสร้างผลกระทบในเชิงบวกต่อจิตใจและช่วยเพิ่มสมดุลให้แก่อารมณ์ของเรา แต่ถึงอย่างนั้น การมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงก็ไม่ได้หมายความถึงการมีสุขภาพจิตที่ดีไปด้วย
ความเจ็บป่วยทางจิตมีสาเหตุหลักมาจากความเหนื่อยล้าและความเครียด โดยเฉพาะความเหนื่อยล้าและความเครียดเรื้อรังที่สามารถนำไปสู่การเสื่อมสมรรถภาพทางร่างกายได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นคนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วยทางกายเรื้อรังมักจะประสบความปวดร้าวทางจิตใจมากกว่าคนที่มีสุขภาพดี มากไปกว่านั้น การมีสุขภาพร่างกายที่ย่ำแย่ยังเพิ่มแนวโน้มในการเป็นโรคซึมเศร้าได้ เช่นเดียวกับปัญหาทางสังคมและความสัมพันธ์ ซึ่งพบได้บ่อยในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงเรื้อรังเหล่านี้
คนที่ขาดสมรรถภาพทางจิตมักจะพบกับสภาวะที่ตนไม่สามารถจดจ่อกับงานธรรมดาๆ หรืองานง่ายๆ ได้อย่างเคย รู้สึกถึงความว่างเปล่าในชีวิต รู้สึกไม่มีความหมายและไร้จุดหมายปลายทาง มักมีความวิตกกังวลทางสังคม ไม่ต้องการเข้าสังคมที่มีคนแวดล้อมมากมาย หรือแม้กระทั่งโต้ตอบกับผู้อื่น ขาดความมั่นใจ จนพัฒนาไปสู่การเกิดความวิตกกังวลอย่างมหาศาลแม้จะอยู่คนเดียว
“There is enough on earth for everybody’s need, but not enough for everybody’s greed” คำกล่าวร่วมสมัยของ Mahatma Gandhi ที่ยังคงหยิบยกมาใช้เพื่อสะท้อนความคิดได้อยู่เสมอ
การแข่งขันเยี่ยงหนูปั่นจักร การตัดขาดจากตัวเองและโลกภายนอก ขาดการตระหนักรู้ในตนเอง ปัญหาชีวิตคู่ และประสบการณ์ทางอารมณ์ที่ไม่ได้รับการแก้ไข เหล่านี้คือเหตุผลสำคัญที่ก่อให้เกิดการเสื่อมสมรรถภาพทางจิต แต่มักถูกมองข้ามหรือคนส่วนใหญ่ไม่เคยทราบว่าเป็นสาเหตุหลักที่แท้จริง
จิตใต้สำนึกเป็นเสมือนคลังเก็บประสบการณ์ทุกอย่างที่คุณเคยพบมาตลอดชีวิต ไม่ว่าคุณจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ประสบการณ์ที่เก็บไว้ในจิตใต้สำนึกของคุณจะติดตามคุณไปตลอดชีวิต ดังนั้นเพื่อให้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพจิตที่ดี เราจึงจำเป็นที่ต้องชะล้างประสบการณ์ทางอารมณ์ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขออกไปจากจิตใจเพื่อให้ก้าวต่อไปข้างหน้าได้
พาครอบครัวไปใกล้ชิดกับธรรมชาติ เช่น การเดินเล่นในสวนสาธารณะ หรือ สร้างความใกล้ชิดกับคนรอบตัวมากขึ้น โดยอาจเริ่มจากการลองเดินไปที่โต๊ะของเพื่อนร่วมงานแทนการส่งอีเมลหรือโทรหากัน ไม่ลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนและครอบครัวเมื่อจำเป็น และเมื่อได้ที่จิตใจรู้สึกถึงความทุกข์เศร้า ให้ลองจดบันทึกความคิดของคุณลงบนกระดาษเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ที่ไม่ต้องการออกจากจิตใจ ทั้งหมดข้างต้นคือแนวทางเพื่อก้าวสู่การมีสมรรถภาพจิตที่ดีขั้นต้น ที่สามารถนำไปใช้เพื่อรักษาและสมดุลจิตใจให้แข็งแรงได้ในชีวิตประจำวันโดยเริ่มต้นด้วยตัวคุณเอง เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งของการยอมรับและการตระหนักรู้ถึงการมีอยู่ เจตคติแง่บวก การรู้สึกขอบคุณและการยอมรับตนเอง
ที่ รักษ เราให้ความสำคัญกับปัญหาสุขภาพจิตที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดังนั้นเราจึงร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญในการสร้างการบำบัดเพื่อยกระดับสุขภาพจิตและอารมณ์ ซึ่งศาสตร์อายุรเวทถือเป็นหนึ่งในการบำบัดแบบองค์รวมที่เรามี ควบคู่ไปกับ Mindfulness meditation, Pranayama, Mano Maya, Singing Bowl, และ Indian Healing Hands Therapy
อาการปวดตึงกล้ามเนื้อ หรือ กลุ่มอาการปวดศีรษะไมเกรน เป็นหนึ่งในอาการที่พบได้บ่อยของกลุ่มคนที่ธาตุดินขาดสมดุล ซึ่งอาจเป็นผลมากจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต การนั่งนานผิดหลักสรีระ ทำงานล่วงเวลา สภาวะเครียด หรือปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งชาที่เหมาะกับคนที่ธาตุดินขาดสมดุลควรมาจากวัตถุดิบที่ให้รสชาติฝาดและเผ็ดร้อน “Bright Burn” จึงเป็นตัวที่เหมาะกับคนกลุ่มอาการนี้อย่างยิ่ง เนื่องจากมีส่วนผสมของใบกะเพรา เมล็ดยี่หร่าและ พริกไทยดำ ที่จะเข้าไปช่วยในเรื่องการไหลเวียนของเลือดให้กล้ามเนื้อคลายตัว
หนึ่งในอาการที่พบมากที่สุดในทุกกลุ่มอายุและกลุ่มที่ธาตุน้ำขาดสมดุลคืออาการภูมิแพ้ มีปัญหาเรื่องทางเดินหายใจและระบบภูมิคุ้มกัน ที่อาจมีสาเหตุมาจากการใช้ชีวิตประจำวันท่ามกลางฝุ่นควัน มลภาวะ หรือการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลและสภาพอากาศ ส่งผลให้ธาตุน้ำในร่างกายเราไม่สมดุลได้ “Amphan” จึงเป็นชาที่จะปรับสมดุลให้กับอาการธาตุน้ำขาดสมดุล เนื่องจากมีรสชาติ เปรี้ยว ขม และเผ็ดร้อน จากส่วนผสมของ ชะเอมเทศ ดอกคำฝอย ขิง และสเปียร์มินต์ ที่จะเข้าไปช่วยในเรื่องการเพิ่มภูมิคุ้มกันและขับเสมหะ
สำหรับคนที่ธาตุลมขาดสมดุล อาจพบได้กับอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกใต้ลิ้นปี่ อาหารไม่ย่อย หนึ่งในกลุ่มอาการของเรือนธาตุนี้ มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยทั้งรับการประทานอาหารที่มีรสจัดมากเกินไป การเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด หรือแม้แต่ความเครียดสะสม ชา “Blooming” ที่มีส่วนผสมของ ขมิ้น ตะไคร้ และสเปียร์มินต์ ที่มีรสเผ็ดร้อน จึงช่วยในการขับลมและบรรเทาอาการดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
นอกจากอาการร้อนในที่พบได้บ่อยของกลุ่มคนที่ธาตุไฟขาดสมดุลแล้ว คุณภาพการนอนไม่ดี หลับไม่สนิทระหว่างคืนก็เป็นอีกหนึ่งอาการของการขาดสมดุลในธาตุไฟ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงด้านฮอร์โมน แสง อารมณ์ และปัจจัยข้างเคียงอื่นๆ โดยวัตถุดิบหลักอย่าง ไมยราบ ที่นำมาเบลนด์เข้ากับวัตถุดิบอื่นๆ ในตัวชา “Mind-Seoul” มีส่วนช่วยในเรื่องการนอนหลับ หลับลึก หลับดี หลับมีคุณภาพ